พลังสถิตร่างและสัตว์หาง





"พลังสถิตร่าง"แปลว่า"พลังแห่งการบูชายัญ" บุคคลเหล่านี้จะได้ครอบครองสัตว์หางไว้ในร่างกาย สัตว์เหล่านี้จะถูกเรียกขานตามจำนวนหางที่มี และแต่ละตัวจะมีลักษณะเฉพาะแตกต่างกันไป ชูคาคุ(หางเดี่ยว)คือทานูกิ 1 หาง "สองหาง" คือแมวสองหาง "สามหาง" คือเต่าสามหาง "สี่หาง" คือลิงสี่หาง "ห้าหาง" วาฬ-ม้า 5 หาง "หกหาง" คือ ทาก 6 หาง "เจ็ดหาง" คือด้วงแรดเจ็ดหาง "แปดหาง" คือ วัวปลาหมึก 8 หาง และ "เก้าหาง"คือ จิ้งจอกเก้าหาง พลังสถิตร่างที่ทราบชื่อคือ ซาบาคุ โนะ กาอาระ,นี ยูกิโตะ,ยากุระ,โรชิ,ฮัน,อุทาคาตะ,ฟู,คิลเลอร์บี และ อุซึมากิ นารุโตะ สามหางคือสัตว์หางตัวเดียวที่ไม่มีพลังสถิตย์ร่าง คาดว่ามันเป็นสัตว์หางของ ยากุระ นินจาหมู่บ้านคิริงาคุเระเมื่ออดีต

สัตว์หางคือสิ่งมีชีวิตที่มีพลังมหาศาลและพลังทำลายล ้างที่รุนแรง โลกนินจาต้องการที่จะได้พลังนั้นมาเป็นของตนเพื่อเป็ นอาวุธให้แก่หมู่บ้าน ตระกูลต่างๆเริ่มรวมตัวกันและกลายเป็นหมู่บ้าน โฮคาเงะรุ่นที่หนึ่งต้องการที่จะสร้างเสถียรภาพให้แก ่ความสมดุลของพลัง เขาจึงจับสัตว์หางและมอบมันให้แก่หมู่บ้านลับต่างๆ พลังที่ไม่สามารถจินตนาการได้นี้ก็สามารถจัดการได้ยา กยิ่ง วิชานินจาหลากหลายรูปแบบได้ถูกใช้เพื่อผนึกสัตว์หางไ ว้ในร่างของมนุษย์ โฮคาเงะรุ่นที่สี่ได้ใช้วิชานินจาคาถาปิดผนึกซากอสูร เพื่อกักขังเก้าหางที่กำลังอาละวาดไว้ในตัวของนารุโต ะ ข้อแลกเปลี่ยนของคาถานั้นช่างมหาศาล โดยการแลกกับวิญญาณของผู้ใช้ หางเดี่ยว ชูคาคุนั้นถูกผนึกเข้าไปในตัวของกาอาระตั้งแต่เขายัง ไม่ทันถือกำเนิด แลกกับการสังเวยชีวิตของแม่เขา ผู้ซึ่งตายไปเมื่อคลอดกาอาระออกมา

ก่อนหน้านี้ ซูคาคุ ได้ถูกผนึกเข้าในร่างของนินจาซึนะงาคุเระ2คน แล้วเมื่อนินจาทั้งสองนี้ใกล้จะสิ้นชีวิต ซูคาคุก็จะถูกดึงออกโดยเอาชีวิตของพวกเขาไปด้วย การแลกด้วยชีวิตนี้เป็นทางเดียวที่จะเอาสัตว์หางออกจ ากร่างมนุษย์ ในการดึงจะต้องใช้วิชาจำพวกผนึกเพื่อปรับให้พลังของส ัตว์หางและพลังสถิตร่างให้เหมาะสมกันก่อนดังนั้นจึงต ้องใช้ระยะเวลา แสงอุษาก็ใช้คาถาในการดึงสัตว์หาง พวกเขาใช้เวลาถึง3วันในการดึงออกมา แต่ว่าเวลาที่ใช้ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิกในกลุ่มเช่ นกัน “ผนึกเก้าวิถี มังกรมายา” เป็นผนึกที่แสงอุษาใช้ดึงสัตว์หาง โดยแลกกับชีวิตของพลังสถิตร่าง6คน กาอาระ,ยูกิโตะ,โรวชิ,ฮัน,ฮุทาคาตะและฟูอุ

จุดประสงค์ของการสร้างพลังสถิตร่างขึ้นมา เพื่อที่จะให้ร่างทั้ง2รวมเข้ากันได้ เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว สัตว์หางจะยินยอมให้ร่างมุนุษย์ยืมพลังอันมหาศาล สัตว์หางแต่ละตัวจะรวมเป็นหนึ่งกับพลังสถิตร่างและมอ บพลังจักระในปริมาณจักระที่ต่างๆกัน แต่การดำเนินชีวิตของพลังสถิตร่างนั้นไม่ง่ายเลย ผู้คนมากมายจะมองพวกเขาว่าเป็นปีศาจร้าย หวาดกลัวและรังเกียจพวกเขา ด้วยเหตุนี้ พวกเขาทั้งหลายจึงมีความโกรธเกรี้ยวต่อโลกใบนี้มาก กาอาระกลายเป็นคนที่บ้าและรู้สึกโดดเดี่ยวเพราะสัตว์ หางในตัวเขา แต่สุดท้ายพลังนี้ก็ทำให้เขาเป็นที่เคารพยำเกรงของคน ในหมู่บ้าน ยูกิโตะและบีก็เป็นที่เคารพรักของคนในหมู่บ้านเช่นกั น นารุโตะเองก็เติบโตมาด้วยความเกลียดชังต่อโลก และพยายามหาเพื่อนที่เข้าใจเขา สุดท้ายเขาก็สามารถเป็นที่ยอมรับของคนทั้งหมู่บ้านได ้ โรวชิถอนตัวจากหมู่บ้านอิวะงาคุเระ เขาเดินทางเร่รอนไปทั่วโลก มีพลังสถิตร่างอีก2คนเช่นกัน ถูกละทิ้งจากโลกใบนี้ สมาชิกในหมู่บ้านไม่ให้ความช่วยเหลือใดๆเมื่อแสงอุษา บุกโจมตีเพื่อจับพวกเขา

คู่มือนี้จะให้ข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับ ความลับ-ตำนานของปีศาจเหล่านี้ในโลกความจริงและข้อมูลชีวประว ัติของสัตว์หางและพลังสถิตร่าง รวมทั้งอิทธิพลสัตว์หางเหล่านี้ที่มีต่อร่างอาศัย

 
  • กาอาระ และหางเดี่ยว



    การปรากฏตัวครั้งแรกของ กาอาระ: มังงะตอนที่ 35 / อนิเมะตอนที่ 20
    การปรากฏตัวครั้งแรกของ หางเดี่ยว: มังงะตอนที่ 134 / อนิเมะตอนที่ 78
    หมู่บ้านที่สังกัด: ซึนะงาคุเระ
    ระดับ: คาเสะคาเงะ
    สัตว์หาง: ชูคาคุหางเดี่ยว (ปีศาจทานูกิหางเดี่ยว)
    พลัง: ร่างกลายชูคาคุ~ทานูกิผู้พิทักษ์ทราย,ทรายป้องกันอัต โนมัติ
    ข้อเสีย: ถ้าหากกาอาระหลับชูคาคุจะเข้าควบคุมร่าง
    สถานะ: ถูกจับและถูกดึงสัตว์หางออกจากร่างกาอาระโดยแสงอุษา
    ข้อมูล: ย่าโจได้ผนึกปีศาจชูคาคุไว้ในกาอาระ ลูกชายของคาเสะคาเงะรุ่นที่4 กาอาระใช้ชีวิตโดดเดี่ยวมาตลอดจนกระทั่งมาเจอกับ อุซึมากิ นารุโตะ เขาได้อุทิศตนและพิสูจน์คุณค่าของตนเองด้วยการปกป้อง หมู่บ้าน ความมุ่งมั่นของเขาทำให้เขาได้เป็นคาเสะคาเงะ เขาพ่ายแพ้ให้กับเดอิดาระ และแสงอุษาก็ได้ดึงเอาสัตว์หางออกมาจากร่างของกาอาระ และทำให้เขาตาย ต่อมาเขาได้ถูกถ่ายเทพลังวิญญาณจากย่าโจ เขาก็ไม่ได้เป็นพลังสถิตร่างอีกต่อไป แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ยังควบคุมทรายได้อยู่บ้าง




    ประวัติศาสตร์ และตำนาน



    ทานูกิคือสัตว์สายพันธุ์เดียวกับสุนัข มีชื่อเสียงด้วยความซน ความสามารถในการแปลงร่างและการนำโชคลาภมาให้ ชูคาคุในเรื่องนารุโตะนั้นเอาแบบมาจากตัวทานูกิ หนึ่งในนั้นมาจากนิทานเรื่อง บังบุคุ ชางะมะ ที่มีทานูกิแปลงร่างเป็นกาน้ำชา ชูคาคุเป็นหนึ่งในสัตว์ที่ถูกผนึก นิทานบางเรื่องก็บอกว่าเทพเจ้าในศาลเจ้านั้นชอบแปลงก ายเป็นทานูกิ ซึ่งจะเชื่อมโยงกับเนื้อเรื่องที่ชูคาคุนั้นถูกนำเสน อในฐานะเทพพิทักษ์ทราย



    ย่าโจ เป็นที่ปรึกษาอาวุโสของซึนะงาคุเระ ผู้ที่ผนึกปีศาจซูคาคุเข้าไปในตัวของกาอาระตามคำสั่ง ของพ่อของเขา คาเสะคาเงรุ่นที่ 2 ก่อนหน้านี้ย่าโจก็เป็นผู้ผนึกหางเดี่ยวตัวนี้เข้าไป ในนินจาซึนะ2คนรวมทั้งเป็นผู้ถอนสัคตว์หางออกจากตัวพ วกเขาด้วยเมื่อเวลามาถึง




    ก่อนเริ่มเรื่อง ซูคาคุเป็นซากของวิญญาณของนักบวชแห่งทราย แต่ตอนนี้เขาเป็นหนึ่งในสัตว์หางของโลกนินจา ซูคาคุมีร่างอาศัยมาแล้วทั้งหมด3คน หนึ่งในร่างอาศัยนั้นเป็นตัวกระตุ้นให้คาเสะคาเงะรุ่ นที่ 3 ใช้วิชาทรายเหล็กได้ ซูคาคุเป็นตัวทำให้เกิดโรคนอนไม่หลับกับร่างที่มันอา ศัย ถ้าหากใครนอนหลับ ซูคาคุจะกัดกินความเป็นตัวตนของเจ้าของร่างนั้นไป แต่ถ้าเจ้าของร่างตื่นอยู่ พลังของซูคาคุก็จะถูกจำกัด และเมื่อร่างอาศัยนั้นเริ่มกลายร่างเป็นซูคาคุและเกิ ดอาการไม่ได้สติ ปีศาจตนนี้จะพยศขึ้นมาอีกครั้ง ซูคาคุเป็นปีศาจที่มีเสียงดังและพูดจามีสีสัน อาจเป็นเพราะไม่ค่อยถูกปล่อยออกมาข้างนอก หลังจากโดนแสงอุษาจับไป ก็ไม่มีเรื่องราวที่พูดถึงซูคาคุอีกเลย


    ผลข้างเคียง




    ซูคาคุดูเชื่องเมื่ออยู่ในตัวกาอาระ แต่สามารถออกมาอิสระได้เมื่อกาอาระหลับลง ด้วยเหตุนี้กาอาระจะไม่ได้นอนหลับเลยเพราะเกรงว่าจะเ กิดภัยธรรมชาติเมื่อซูคาคุตื่นขึ้นมา ทำให้ขอบตาของกาอาระเป็นสีดำ แต่ในอีกแง่หนึ่งเป็นเพราะซูคาคุเป็นตัวทานูกิซึ่งเป ็นสัตว์ที่มีขอบตาดำ จึงส่งผลให้กาอาระมีขอบตาดำ

    ลักษณะอื่นๆที่กาอาระถูกเปรียบให้เหมือนทานูกิก็คือ น้ำเต้าที่สะพายอยู่ด้านหลัง เพราะการวาดภาพทานูกิส่วนใหญ่จะมีการวาดถุงน้ำเต้าสะ พายอยู่ที่ไหล่ของมันด้วย




    การป้องกันโดยอัตโนมัติ: กาอาระสามารถใช้ประโยชน์จากหางเดี่ยวในตัวได้หลายรูป แบบ ตัวอย่างเช่น ปีศาจตนนี้จะสร้างโล่ทรายมาป้องกันกาอาระจากการโจมตี ต่างๆโดยอัตโนมัติ แต่การป้องกันนี้ก็จำกัดความเร็วของมันไว้เหมือนกัน การโจมตีที่รวดเร็วพอก็สามารถเข้าถึงตัววกาอาระได้ก่ อนที่จะมีทรายมาปิดกั้นไว้




    พลัง: ใช้จักระใส่เข้าไปในทรายและจับคู่ต่อสู้ไว้ จากนั้นกาอาระจะบีบและบดศัตรู เลือดของศัตรูสามารถเพิ่มพลังให้ซูคาคุได้ เมื่อทรายที่มีจักระกลับเข้าน้ำเต้าของกาอาระ เลือดของเหยื่อจะปนกับทรายเข้าไปด้วย เลือดนี้ช่วยเพิ่มพลังให้กับสัวต์หางในตัวเขาได้



    รูปแบบการกลายร่างเป็นสัตว์หาง




    การเรียกใช้ทรายจากน้ำเต้าและภูมิประเทศโดยรอบ ทำให้กาอาระสามารถป้องกันตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ ในการกลายร่างเป็นสัตว์หาง กาอาระจะต้องครอบปิดตัวเองด้วยทรายเป็นลูกทรงกลมจากน ั้นในตัวกาอาระจะตื่นขึ้น เริ่มกลายเป็นซูคาคุขนาดเล็ก เขาสามารถใช้คาถาอื่นๆได้เช่น ดาวกระจายทราย ร่างต่อไปคือกลายร่างสมบูรณ์เป็นขนาดใหญ่และดุร้าย กาอาระจะเรียกทรายจำนวนมากมารวมกันก่อเป็นซุคาคุร่าง ยักษ์ จากนั้นก็ใช้คาถาทานูกินิทรา เพื่อให้ซูคาคุควบคุมร่างของเขาได้อย่างอิสระ ร่างสมบูรณ์นี้เป็นร่างที่น่าหวาดกลัวและอันตราย เทมาริเองก็ได้รับบาดเจ็บจากร่างนี้เช่นกัน






    ผลกระทบอื่นๆจากชาคาคุ




    นอกเหนือจากพลังจากการทำลายที่รุนแรงในร่างสัตว์หาง แ ล้ว กาอาระสามารถใช้พลังในรูปแบบของซูคาคุได้โดยที่ยังตื ่นอยู่ เช่น การเรียกกรงเล็บซูคาคุออกมา หรือ การสร้างซูคาคุในการใช้คาถาโล่ซูคาคุ(การป้องกันขั้น สุดยอด)


     
  • นี ยูกิโตะ และ หางคู่



    การปรากฏตัวครั้งแรกของ ยูกิโตะ: มังงะตอนที่ 312 / อนิเมะตำนานวายุสลาตันตอนที่ 71
    การปรากฏตัวครั้งแรกของ 2 หาง: มังงะตอนที่ 313 / อนิเมะตำนานวายุสลาตันตอนที่ 72
    หมู่บ้านที่สังกัด: คุโมะงาคุเระ
    ระดับ: โจนิน
    สัตว์หาง: อิคิเรียวสองหาง
    พลัง: ลูกไฟยักษ์
    ข้อเสีย: -
    สถานะ: โดนจับและผนึกโดยแสงอุษา
    ข้อมูล: ยูกิโตะเป็นนินจาหญิงจากคุโมะงาคุเระ เป็นพลังสถิตร่างเหมือนกาอาระและนารุโตะ เธอเป็นกำลังสู้รบสำคัญของหมู่้บ้าน เป็นพลังสถิตร่างที่มีปีศาจ"อิคิเรียว"หรือ"วิญญาณดิ บ"อยู่ภายใน แต่เธอก็แพ้ในการต่อสู้กับฮิดันและคาคุสึ จากนั้นพวกแสงอุษาก็จับตัวเธอไปดึงสัตว์หางออก ทำให้เธอเสียชีวิตในที่สุด



    ประวัติศาสตร์ และตำนาน




    สัตว์ในจำพวกแมวนั้นเป็นสปีชีร์ที่มีการกล่าวถึงกันท ั่วโลกแม้แต่ในนิทานเกี่ยวกับปีศาจแมวของญี่ปุ่น ตามตำนาน แมวที่มีหางแยกออกเป็นง่าม2ง่าม จะมีความสามารถในการควบคุมความตายและเกี่ยวข้องกับเห ตุไฟไหม้หรือเหตุการณ์ประหลาด จากตำนานนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับสัตว์หาง"สองหาง" ที่มีชื่อเรียกว่า วิญญาณดิบ และสามารถพ่นลูกไฟได้



    รูปแบบการกลายร่างเป็นสัตว์หาง (เต็มตัว)




    ยูกิโตะ มีความสามารถสูงในการควบคุมสัตว์หางของเธอ ด้วยจักระที่ค่อยๆพุ่งออกมา เธอจะโค้งตัวลงเป็น4ขา จากนั้นก็จะกลายร่างเป็นสองหาง สองหางมีขนาดเล็กกว่าซูคาคุหางเดี่ยว ในร่างนี้ ยูกิโตะสามารถพ่นลูกไฟออกทางปากของแมวได้ ลูกไฟยักษ์นี้มีพลังทำลายล้างสูงและเมื่อใช้ควบคู่กั บความแข็งแกร่งของสองหางแล้ว พื้นที่โดยรอบจะละลายเป็นยางไปหมดสิ้น








    ยากุระ และ 3 หาง



    การปรากฏตัวครั้งแรกของ ยากุระ: มังงะตอนที่ 420 / อนิเมะตำนานวายุสลาตันตอนที่ -
    การปรากฏตัวครั้งแรกของ 3 หาง: มังงะตอนที่ 317 / อนิเมะตำนานวายุสลาตันตอนที่ 92
    หมู่บ้านที่สังกัด: หมอกโลหิต - คิริงาคุเระ
    ระดับ: มิซึคาเงะ
    สัตว์หาง: ปิศาจเต่า 3 หาง
    พลัง: ถูกจับ และผนึกสัตว์หางโดย แสงอุษา
    ข้อมูล: แสงอุษาได้ติดตามการเคลื่อนไหวของปิศาจ 3 หางซึ่งมีรูปแบบมาจาก เต่า และกุ้ง ในอดีตที่ผ่านมา 3 หางถูกผนึกในร่างของยากุระ มิซึคาเงะรุ่นที่ 4 มีข่าวลือมาว่า แสงอุษากำเนิดขึ้นในช่วงที่ยากุระเป็นมิซึคาเงะ ตอนที่คิริงาคุเระยังถูกเรียกว่า "หมู่บ้านหมอกโลหิต" ตอนที่แสงอุษาจับ 3 หางได้ 3 หางอยู่ในร่างของมันเอง ปราศจากพลังสถิตร่าง ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกับยากุระ เขาอาจจะอ่อนแอลง หรืออาจะไม่สามารถควบคุมพลังของเขาได้ โทบิได้ลงมือจับ 3 หางด้วยตนเองโดยไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากเดอิดาระ 3 หางได้ถูกผนึกไปอยู่ภายในเทวรูปมารนอกรีตโดยแสงอุษาแ ล้ว




    ประวัติศาสตร์ และตำนาน



    เต่าเป็นสัตว์ที่มีอยู่ทั่วไป และเรื่องราวของเต่าทะเล หรือผี ก็ปรากฏออกมาทั่วประเทศญี่ปุ่น ในตำนานของซัปปอนโนะยูเรย์ เป็นเรื่องราวของวิญญาณกินเต่า มีชายสามคนที่กินเต่าเข้าไปและถูกวิญญาณของเต่าที่กิ นเข้าสิง เป็นที่ร่ำลือกันนาน 3 วัน ปีศาจอื่นๆ เช่น อุมิโบซึ (เณรทะเล) มีลักษณะเป็นเต่าสีเขียวขนาดใหญ่ คอยทำร้ายชาวประมง อุมิโอโช หรือ โอโชอุโอะ (พระทะเล) มีลักษณะของพระทะเลที่มีรูปร่างเป็นเต่า




    โรชิ และ 4 หาง



    การปรากฏตัวครั้งแรกของ โรชิ: มังงะตอนที่ 353 / อนิเมะตำนานวายุสลาตันตอนที่ 121
    การปรากฏตัวครั้งแรกของ 4 หาง: มังงะตอนที่ 467 / อนิเมะตำนานวายุสลาตันตอนที่ -
    หมู่บ้านที่สังกัด: อิวะงาคุเระ
    ระดับ: -
    สัตว์หาง: ปีศาจวานร 4 หาง
    พลัง: คาถาลาวา
    ข้อเสีย: ไม่ทราบ
    สถานะ: ถูกจับ และผนึกสัตว์หางโดย แสงอุษา
    ข้อมูล: โรชิเป็นพลังสถิตร่างที่อายุมากที่สุด ในบรรดาพลังสถิตร่างทั้งหมด เขาเป็นพลังสถิตร่างของปีศาจวานร 4 หาง รูปแบบมาจากกอริลล่าขนาดยักษ์ กับลาวา เขากลายเป็นพลังสถิตร่างโดยอิวะงาคุเระ เขาได้เดินทางไปรอบโลกเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับพลั งของสัตว์หาง เขาสามารถใช้วิชานินจา คาถาลาวา ซึ่งมาจากการรวมธาตุปัจจัยของดิน และไฟ กลายเป็นลาวาซึ่งหลอมละลายได้ทุกสิ่ง สุดท้ายโรชิถูกจัดการโดยคิซาเมะ และถูกผนึกสัตว์หางในที่สุด



    ประวัติศาสตร์ และตำนาน



    เผ่าพันธุ์วานรที่ดีได้แก่ ชิมแพนซี กอริลล่า อุรังอุตังและมนุษย์ ในตำนานของญี่ปุ่น ภูเขาซาโตริเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าวานร ในนวนิยายพื้นบ้านของจีน ได้กล่าวถึงการผจญภัยวานรหนุ่มชื่อซุน โงกุน ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจของผู้เขียนอื่นๆมากมายรวมไปถ ึง อาคิระ โทริยาม่านักวาดการ์ตูนญี่ปุ่นกับเรื่อง Dragon Ball ของเขา ภายในเรื่องตัวละครบางตัวสามารถใช้พลังแปลงร่างเป็นว านรขนาดใหญ่ได้
     
  • ฮัน และ 5 หาง



    การปรากฏตัวครั้งแรกของ ฮัน: มังงะตอนที่ 420 / อนิเมะตำนานวายุสลาตันตอนที่ -
    การปรากฏตัวครั้งแรกของ 5 หาง: มังงะตอนที่ 467 / อนิเมะตำนานวายุสลาตันตอนที่ -
    หมู่บ้านที่สังกัด: อิวะงาคุเระ
    ระดับ: -
    สัตว์หาง: ปิศาจวาฬ - ม้า 5 หาง
    พลัง: ?
    ข้อเสีย: ไม่ทราบ
    สถานะ: ถูกจับ และผนึกสัตว์หางโดยแสงอุษา
    ข้อมูล: แสงอุษาได้จับฮัน และสัตว์หางของเขาไปแล้ว สัตว์หางมีรูปแบบผสมมาจากวาฬ และม้า ไม่ทราบว่าสมาชิกคนใดของแสงอุษาเป็นคนจับ หลังจากที่ถูกแสงอุษาหมายตา เขาก็ถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้าน




    ประวัติศาสตร์ และตำนาน



    Condylarth สัตว์กีบเท้าพันธุ์แรกๆ จนกระทั่งแตกเป็นหลายสายพันธุ์ รวมทั้ง Perissodactyla, รูปแบบที่ได้จากม้าและ Cetacea, containing whales, dolphinsและ porpoises. ในตำนาน ซาการิ คือลักษณะหัวม้าของต้นไม้ในสาขาต้นตำแย ส่วนบาเกะ-คุจิระนั้นคือโครงกระดูกของวาฬ




    อุทาคาตะ และ 6 หาง



    การปรากฏตัวครั้งแรกของ อุทาคาตะ: มังงะตอนที่ 420 / อนิเมะตำนานวายุสลาตันตอนที่ -
    การปรากฏตัวครั้งแรกของ 6 หาง: มังงะตอนที่ 467 / อนิเมะตำนานวายุสลาตันตอนที่ -
    หมู่บ้านที่สังกัด: คิริงาคุเระ
    ระดับ: -
    สัตว์หาง: ปิศาจทาก 6 หาง
    พลัง: ?
    ข้อเสีย: ไม่ทราบ
    สถานะ: ถูกจับ และผนึกสัตว์หางโดยแสงอุษา
    ข้อมูล: แสงอุษาได้จับอุทาคาตะ และผนึกสัตว์หางไปแล้ว สัตว์หางมีลักษณะของทาก โดยเพนเป็นคนจับ



    ประวัติศาสตร์ และตำนาน



    Gastropoda เป็นสัตว์ในจำพวกแมลง อยู่ในสถานที่ที่หลากหลายแตกต่างกัน แม่น้ำในทะเลทราย มหาสมุทร และถ้ำ บางชนิดขับเมือกหนาห่อหุ้มร่างกายเอาไว้ โดยเมือกมีหน้าที่ปกป้อง และป้องกันการไหลตกลงตามแนวดิ่ง (ช่วยยึดเกาะ) ทั้งยังสามารถพ่นเมือกออกมาเป็นการป้องกันตัวได้ ในตำนาน ซาซาเอะ โอนิ เป็นปิศาจหอยหมวกที่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างของตนเอ งได้



    รูปแบบการกลายร่างเป็นสัตว์หาง[Version 1]



    อูทาคาตะสามารถควบคุมสัตว์หางของเขาได้ ด้วยจักระที่ไหลออกจากร่างของเขา อูทาคาตะสามารถเพิ่มพลังได้ด้วยรูปแบบของ 6 หางซึ่งไม่เหมือนกับอูซึมากิ นารุโตะ ระดับการควบคุมของเขาไม่จำเป็นต้องเข้าสู่รูปแบบสัตว ์หาง "Version 2"



    รูปแบบการกลายร่างเป็นสัตว์หาง(ร่างสมบูรณ์)



    รูปแบบการกลายร่างเป็นสัตว์หาง เต็มขั้นของอุทาคาตะ หลังจากเรียก 6 หางออกมาแล้ว อุทาคาตะจะอยู่ในร่างของสัตว์หางที่สามารถดูดซับพลัง ทำลายที่รุนแรงได้





    ฟู และ 7 หาง



    การปรากฏตัวครั้งแรกของ ฟู : มังงะตอนที่ 420 / อนิเมะตำนานวายุสลาตันตอนที่ -
    การปรากฏตัวครั้งแรกของ 7 หาง: มังงะตอนที่ 467 / อนิเมะตำนานวายุสลาตันตอนที่ -
    หมู่บ้านที่สังกัด: ทาคิงาคุเระ
    ระดับ: -
    สัตว์หาง: ปิศาจด้วง 7 หาง
    พลัง: ?
    ข้อเสีย: ไม่ทราบ
    สถานะ: ถูกจับ และผนึกสัตว์หางโดยแสงอุษา
    ข้อมูล: แสงอุษาได้จับกุมฟู และผนึกสัตว์หางของเธอไปแล้ว ปีศาจมีรูปแบบมาจากด้วง มี 6 ปีก และ อีก 1 คือหาง ไม่ทราบว่าสมาชิกคนใดของแสงอุษาเป็นคนจับ หลังจากที่ถูกแสงอุษาหมายตา เขาก็ถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้าน



    ประวัติศาสตร์ และตำนาน



    rhinoceros beetle เป็นด้วงที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ หากนำมาขยายให้มีขนาดเท่าๆกับสัตว์โลกทั้งหมดแล้ว ด้วงถือว่าสัตว์ที่แข่งแกร่งที่สุดในโลก การเอาด้วงมาต่อสู้กันเพื่อนการพนันเป็นที่แพร่หลายใ นทวีปเอเชีย ด้วงมีลักษณะเป็นแมลงซึ่งมีกระดอง - ปีกแข็ง ตัวกระดองเป็นเหมือนกับเกราะป้องกันซึ่งมีความยืดหยุ ่น ปีกของด้วงไม่ได้มีไว้เพื่อบินเพียงอย่างเดียว แต่มีวัตถุประสงค์อื่น เช่นเพื่อป้องกันลำตัวภายใต้เกราะแข็งด้านใน ด้วงบางสายพันธุ์ไม่สามารถบินได้
     
  • คิลเลอร์บี และ 8 หาง



    การปรากฏตัวครั้งแรกของ คิลเลอร์บี: มังงะตอนที่ 408 / อนิเมะตำนานวายุสลาตันตอนที่ -
    การปรากฏตัวครั้งแรกของ 8 หาง: มังงะตอนที่ 413 / อนิเมะตำนานวายุสลาตันตอนที่ -
    หมู่บ้านที่สังกัด: คุโมะงาคุเระ
    ระดับ: ไม่ทราบ (อาจเป็นโจนิน)
    สัตว์หาง: ปิศาจกระทิง - หมึกยักษ์ 8 หาง
    พลัง: รูปแบบ Mini-Hachibi ~จักระป้องกันของ 8 หางซึ่งออกมาในรูปของกระทิง - หมึกยักษ์ จักระขนาดยักษ์ซึ่งเพิ่มพลังให้บี
    สถานะ: ยังมีชีวิตอยู่
    ข้อมูล: แสงอุษายังไม่ได้ผนึกสัตว์หางทั้งสองตน : นารุโตะ และ 8 หางซึ่งมีชื่อว่า คิลเลอร์ บี หลังจากอุจิวะ มาดาระได้ซาสึเกะมาอยู่ฝ่ายเดียวกับตน เขาได้ส่งเด็กหนุ่มมาจับตัว 8 หาง ในที่สุดก็พบตัวอยู่ในช่วงกำลังฝึกฝนอยู่ในภูเขาของค ุโมะงาคุเระ บีมีลายสักที่หัวไหล่ว่า "เหล็ก" และ รูปเขาที่แก้มของเขา เขาแบกดาบทั้งหมด 8 เล่ม ใช้รูปแบบของดาบจริง 7 เล่ม และรูปแบบของหาง พลังสัตว์หางของเขาคือ กระทิงที่มีหนวดปลาหมึก และยังสามารถเข้าขากันได้ดี เขาถูกน็อคโดยอุจิวะซาสึเกะเพื่อจับตัวไปผนึกสัตว์หา ง ทว่าสิ่งที่ซาสึเกะเอาไปได้นั้นคือส่วนของหนวดปลาหมึ กที่สลับร่างจริง บียังคงปลอดภัยในคามินาริโนะคุนิ และหนีการจับกุมจากแสงอุษารวมไปถึงการคุ้มครองกลับหม ู่บ้านด้วย



    ประวัติศาสตร์ และตำนาน



    ในบางตำนาน อุชิโอนิ (วัวยักษ์) เป็นสัตว์ทะเลที่เห็นได้โดยทั่วไป ซึ่งส่วนศีรษะเป็นวัว ส่วนร่างกายเป็นสัตว์ไร้กระดูก 8 หางปรากฏออกมาในลักษณะนี้ หมึก รวมไปถึงหมึกยักษ์เป็นสัตว์ทะเลที่เห็นได้ทั่วไปในญี ่ปุ่นและในประเทศอื่นๆ ในตำนานอื่น (ไม่ใช่ญี่ปุ่น)ได้กล่าวถึงคราเคนซึ่งเป็นปลาหมึกยัก ษ์คอยจู่โจมเรือของชาวประมง เรือเดินทางต่างๆ หมึกลึบลับนั้นถูกพบว่ามีชีวิตอยู่ปกติตามธรรมชาติโด ยนักวิจัย




    ผลกระทบ



    ลายสักเขาวัวนี้อยู่ที่แก้มซ้ายของคิลเลอร์ บี แม้ลายสักจะเป็นวัว แต่ทว่าสัตว์หางของเขานั้นเป็นวัวกระทิงที่ผสมกับหนว ดของหมึกยักษ์ อุชิโอนิ (วัวยักษ์) รูปแบบอื่นที่ทำให้เขาดูคล้ายปลาหมึกคือถุงมือของเขา ที่มีลายวงกลมทำให้ดูเหมือนถ้วยดูดของปลาหมึก



    รูปแบบการกลายร่างเป็นสัตว์หาง [Version 1]



    คิลเลอร์บี สามารถควบคุมสัตว์หางของเขาได้ในระดับสูง ด้วยจักระที่ปกคลุมร่างของเขาทำให้พลังของบีเพิ่มขึ้ นเป็นเท่าตัว ในรูปแบบที่จักระคลุมร่างนี้ บีสามารถเพิ่มหางได้ถึง 8 หางทั้งที่ยังคงสติได้เต็มที่ ไม่เหมือนกับอูซึมากิ นารุโตะที่ไม่สามารถประคองสติได้เต็มที่ ทั้งยังจะเข้าสู่โหมดที่ 2 ด้วย เขาสามารถควบคุมรูปลักษณ์ของจักระที่ปกคลุมร่างให้กล ายเป็นรูปร่างของเขาวัวกับท่า Rariatto ซึ่งช่วยเสริมความรุนแรงให้เป็นอย่างดี




    รูปแบบการกลายร่างเป็นสัตว์หาง(7 หาง) [Version 2]



    คิลเลอร์บี สามารถควบคุมสัตว์หางของเขาได้ในระดับสูง เขาสามารถเข้าสู่โหมดที่ 2 จักระจะมีความเข้มข้นมากขึ้น จนร่างของบีแลดูเหมือนกระทิง




    รูปแบบการกลายร่างเป็นสัตว์หาง(8 หาง) [Version 2]



    หลังจากเข้าสู่โหมดที่ 2 จะปรากฏโครงกระดูกของกระทิงบนร่างของคิลเลอร์ บี



    รูปแบบการกลายร่างเป็นสัตว์หาง(เต็มตัว)



    คิลเลอร์บี สามารถควบคุมสัตว์หางของเขาได้ในระดับสูง แม้จะอยูี่ในสภาพของสัตว์หางเต็มตัวเลยก็ตาม หลังจากเชื่อมต่อกับ 8 หาง คิลเลอร์ บีสามารถใช้ร่างของ 8 หางได้ สามารถบีบอัดจักระเข้มข้นซึ่งสามารถระเบิดออกได้เป็น วงกว้าง ซึ่งทำลายล้างได้ทุกสิ่ง



    พลังสถิตร่าง 8 หาง ไร้นาม และ 8 หาง



    พลังสถิตร่างปรากฏตัวครั้งแรก: มังงะตอนที่ 494 / อนิเมะตำนานวายุสลาตันตอนที่ -
    8 หางปรากฏตัวครั้งแรก: มังงะตอนที่ 413 / อนิเมะตำนานวายุสลาตันตอนที่ 143
    หมู่บ้านสังกัด: คุโมะงาคุเระ
    ระดับนินจา: ไม่ระบุ (อาจอยู่ระดับโจนิน)
    สัตว์หาง: ปิศาจหมึกยักษ์ - วัวกระทิง 8 หาง
    สถานะ: เสียชีวิต
    ข้อมูล : เมื่อ 8 หางเข้าครอบครองพื้นที่ของคุโมะงาคุเระ พวกเขาพยายามสะกด 8 หางลงในร่างกายของนินจาหลายต่อหลายครั้ง เพราะไม่มีใครสามารถควบคุมความป่าเถื่อนของ 8 หางได้ เป็นการยากที่จะควบคุม 8 หางจึงส่งผลให้พลังสถิตร่างไม่สามารถควบคุมตนเอง และกลายร่างสมบูรณ์เข้าโจมตีหมู่บ้าน ซึ่งเป้นผลบังคับให้ไรคาเงะ และนินจาคุโมะต้องผนึกมันลงไปในภาชนะผนึก และหมู่บ้านก็สามารถสร้างพลังสถิตร่างซึ่งสามารถควบค ุม 8 หางได้ในที่สุด ซึ่งก็คือ คิลเลอร์ บี
     

  • จักระใช้ในการโจมตี: จักระของจิ้งจอกเก้าหางในร่างสัตว์หางจะสามารถใช้โจม ตีได้ด้วย นารุโตะสามารถขยายและยืดจักระออกมาเป็นแขนเพื่อใช้จั บและโจมตีศัตรูได้ กิ่งก้านของแขนที่สร้างออกมานี้ สามารถยืดได้ยาวมากจากร่างศูนย์กลาง ในร่างสี่หาง,จะเน้นการโจมตีเป็นพิเศษ เขาสามารถโจมตีได้อย่างรวดเร็วและถ้าหากร่างโดนโจมตี จักระก็จะสร้างร่างใหม่งอกขึ้นมาเพื่อโจมตีในมุมอื่น แทน อีกทั้งยังสามารถสร้างจักระมหึมาใช้โจมตีได้อีกด้วย หนึ่งในการโจมตีที่รุนแรงคือ ร่างสี่หางจะกลืนจักระสีดำเข้าไปผสมกับเลือดภายในตัว จากนั้นก็ยิงออกมาเป็นลำแดงขนาดใหญ่


    การฟื้นฟู : เพราะชีวิตของจิ้งจอกเก้าหางนั้นขึ้นอยู่กับนารุโตะ จึงเป็นผลให้จิ้งจอกเก้าหางต้องมอบพลังในการฟื้นฟูให ้นารุโตะเมื่อเขาเกิดบาดแผล แต่การรักษาด้วยระดับสูงๆก็ส่งผลเสียต่อนารุโตะเช่นก ัน เพราะเซลล์มีช่วงชีวิตของมันเอง การฟื้นฟูร่างกายจากบาดแผลที่สาหัสจะทำให้ชีวิตของนา รุโตะสั้นลง




    การปลดปล่อยพลังของสัตว์หาง



    การปลดปล่อยพลังจิ้งจอกเก้าหางตามที่ปรากฏในเรื่อง, เมื่อจิ้งจอกเก้าหางยินยอมให้นารุโตะยืมจักระหรือเมื ่อนารุโตะรู้สึกโมโห จักระจิ้งจอกเก้าหางก็จะถูกปลดปล่อย หนวดที่แก้มจะดูชัดเจนขึ้น ดวงตาเป็นสีแดง ผมเริ่มฟู ฟันเขี้ยวเริ่มงอกยาวและใหญ่ เล็บมือเริ่มแหลมคม เมื่อกลายร่าง นารุโตะจะถูกปกคลุมด้วยจักระสีแดง สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว มีปริมาณจักระมหาศาล ฟื้นฟูร่างกายอย่างรวดเร็วและโจมตีด้วยพลังที่รุนแรง






    รูปแบบการกลายร่างเป็นสัตว์หาง (1 หาง)



    ในตอนที่นารุโตะต่อสู้กับซาสึเกะที่หุบผาสิ้นสุด เขาเอาเป็นเอาตายที่จะพาเพื่อนกลับโคโนะฮะ การต่อสู้ทำให้นารุโตะใช้กำลังเกินจำกัดของตนเอง ขณะที่ซาสึเกะเริ่มได้เปรียบ จิ้งจอกเก้าหางก็ให้พลังกับนารุโตะมากขึ้นแบบที่ไม่เ คยได้รับมาก่อน จักระสีแดงที่เดือดและคล้ายฟองน้ำเริ่มปกคลุมเขา และเริ่มงอกหูและหางออกมา จักระของร่าง1หางนี้ไม่ได้ทำร้ายร่างกายของนารุโตะ เขาสามารถเคลื่อนไหวได้ตามใจนึกโดยไม่เสียสติแต่จักร ะก็เคลื่อนไหวตามใจของมันเช่นกัน ในร่างนี้จักระก็สามารถใช้ป้องกันการโจมตีต่างๆได้ด้ วย






    รูปแบบการกลายร่างเป็นสัตว์หาง(2 หาง)



    เมื่อกลายเป็นร่าง2หาง นารุโตะจะมีส่วนของสัตว์มากขึ้น ดวงตาขยายใหญ่ขึ้นและรอบตาจะมีเส้นสีดำหนา ฟันเขี้ยวจะยาวออกมาและใหญ่ขึ้น ถ้าหากนารุโตะใช้คาถาแยกร่างอยู่และมีร่างใดร่างหนึ่ งเริ่มกลายเป็น2หาง ร่างโคลนเหล่านั้นก็จะถูกเผาด้วยจักระสีแดงเช่นกันเพ ราะความรู้สึกและการรับรู้เชื่อมต่อกับร่างจริง






    รูปแบบการกลายร่างเป็นสัตว์หาง



    ร่าง3หางของนารุโตะ ดูคล้ายกับร่าง2หาง ในร่างนี้นารุโตะสามารถคำรามและปล่อยจักระทำลายล้างอ อกไปได้ ผลของการทำลายนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณจักระที่ปล่อยออก ไป ยิ่งเข้มขึ้นยิ่งทำลายล้างได้สูงและการคำรามธรรมดาสา มารถทำลายสิ่งต่างๆรอบๆและสะท้อนการโจมตีที่เข้ามาได ้ด้วย






    รูปแบบการกลายร่างเป็นสัตว์หาง (4 หาง)



    ในร่างนี้ นารุโตะจะสูญเสียสติสัมปชัญญะไปจนหมด กลายเป็นร่างที่สัตว์ที่ดุร้าย ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างแม้กระทั่งเพื่อนสนิท ภายในตัวนารุโตะในส่วนของกรงขัง นารุโตะข้ามเขตป้องกันมาและตกอยู่ภายใต้การควบคุมของ จิ้งจอกเก้าหาง จักระของเก้าหางเริ่มจะกัดกินผิวหนังของนารุโตะ ร่างกายเริ่มเปลี่ยนแปลง หนวดที่แก้มเริ่มจะชัดเจนขึ้น นิ้วมือกลายเป็นกรงเล็บ หูและหางทั้งสี่จะงอกขึ้นมา คำรามด้วยเสียงปีศาจกับเขี้ยวที่แหลมคม ร่างนี้เป็นร่างที่มีแต่การทำลายล้าง ทั้งการคำราม หรือการข่วน ล้วนเป็นการโจมตีที่รุนแรงและสร้างความเสียหายอย่างห นักและแม้แต่การแตะต้องตัว ก็จะถูกเผาด้วยจักระสีแดงอันตราย แต่ร่างนี้ก็ยังอ่อนแอเพราะผนึกของโฮคาเงะรุ่นที่ 4






    รูปแบบการกลายร่างเป็นสัตว์หาง (6 หาง)



    ร่างหกหางเป็นการขยายร่างมาจากร่างสี่หาง โดยนารุโตะจะถูกห่อหุ้มด้วยจักระสีแดงอันตราย หลังจากนั้นจะเริ่มมีกระดูกขึ้นมาครอบร่างหกหาง






    รูปแบบการกลายร่างเป็นสัตว์หาง (8 หาง)



    ร่างแปดหางนี้เป็นการขยายของร่างหกหาง ภายในตัวของนารุโตะในส่วนของกรงขังจิ้งจอกเก้าหาง ผนึกที่ท้องของเขาจะหมุนและคลายออก จักระของจิ้งจอกเก้าหางจะปลดปล่อยออกมาจำนวนมากขึ้น โครงสร้างที่เห็นเป็นกระดูกของหกหางจะเริ่มมีกล้ามเน ื้อมาปกคลุม ที่ยังไม่เห็นร่างเจ็ดหางและเก้าหางนั้นอาจจะเป็นเพร าะการขยายร่างและปริมาณจักระของจิ้งจอกเก้าหางเอง โดยขั้นตอนการสร้างร่างของจิ้งจอกจะเป็นไปตามนี้ หกหาง-กระดูก เจ็ดหาง-อวัยวะภายใน แปดหาง-กล้ามเนื้อ เก้าหาง-ผิวหนัง






    อุซึมากิ คุชินะ และ 9 หาง



    คุชินะปรากฏตัวครั้งแรก: มังงะตอนที่ 382 / อนิเมะตำนานวายุสลาตันตอนที่ 128
    9 หางปรากฏตัวครั้งแรก: มังงะตอนที่ 1 /อนิเมะตอนที่ 1
    หมู่บ้านสังกัด: โคโนะฮะ
    ระดับ: ไม่ระบุ (อาจจะอยู่ระดับโจนิน)
    สัตว์หาง : ปิศาจจิ้งจอก 9 หาง
    สถานะ: เสียชีวิต
    ข้อมูล: เหตุการณ์ในอดีตอุซึมากิ คุชินะเป็นพลังสถิตร่างของ 9 หาง แต่หลังจากเธอเสียชีวิตไป 9หางได้ถูกผนึกลในร่างของนารุโตะ ลูกชายของเธอ นั่นก้อคืดนารูโตะ นั่นเอง


    เซียนหกวิถีและสิบหาง



    การปรากฏตัวครั้งแรกของเซียนหกวิถี : มังงะตอนที่ 367 / อนิเมะตำนานวายุสลาตันตอนที่ 128
    การปรากฏตัวครั้งแรกของ10 หาง : มังงะตอนที่ 467 / อนิเมะตำนานวายุสลาตันตอนที่ -
    หมู่บ้านที่สังกัด: -
    สัตว์หาง: สิบหาง
    สถานะ: แยกกระจายออกเป็นสัตว์หาง9ตัวโดยเซียนหกวิถี
    ข้อมูล: สิบหาง เป็นสิ่งที่มีพลังไร้ขีดจำกัด เพื่อหยุดยั้งความอันตรายนี้ เซียนหกวิถีจึงสะกดสัตว์หางตัวนี้ไว้ในตัวของเขาเอง เมื่อเขาใกล้จะตาย เขาจึงตัดสินใจแยกพลังของสิบหางออกเป็น9ส่วน เพื่อป้องกันการคืนชีพของสิบหาง จากนั้นก็ผนึกร่างของตัวเองไว้ที่ดวงจันทร์ 9ส่วนนี้จะกลายเป็นหนึ่งโดยการรวมสัตว์หางจนถึง9หาง
  • Advertising Zone    Close

    ยังไม่ได้ลงทะเบียน

    เว็บไซต์นี้ยังไม่ได้ลงทะเบียนยืนยันการเป็นเจ้าของเว็บไซต์กับ Siam2Web.com